วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Palm Springs Nimman Condo คอนโดเชียงใหม่ บ้านเชียงใหม่ บ้านจัดสรรเชียงใหม่ ทาวน์โฮมเชียงใหม่

  • Palm Springs Nimman คอนโดหรู บนทำเลทอง นิมมานฯ เชียงใหม่
ชื่อโครงการ : Palm Springs Nimman Condo
ชื่อเจ้าของโครงการ : บริษัท ปาล์มสปริงส์เพลส จำกัด 
ที่ตั้งโครงการ : ถนนนิมมานเหมินทร์ ซอย 5
พื้นที่โครงการ : 8-2-16.1 ไร่
จำนวนห้อง : 450 Units
ขนาดห้อง : 1 Bed (27 – 40 sq.m.)
ราคาเริ่มต้น : 71,000 บาท/ตร.ม.

สิ่งอำนวยความสะดวก : สระว่ายน้ำ, ห้องออกกำลังกาย พร้อมอุปกรณ์, สวนส่วนกลาง, ระบบความปลอดภัย CCTV, ระบบผ่านเข้า-ออกโครงการ Key Card access

โปรโมชั่น : Fully Furnished, 2 Air Conditions, Kitchen Set, TV 32”, Refrigerator 8.1 q, Water heater

Facebook: https://www.facebook.com/Palmsprinsplacechiangmai#!/palmspringsplacechiangmai?fref=ts
Website: http://www.palmsprings.co.th
เบอร์โทร 053-210999, 081-9508882
Email : Pncondo@gmail.com

รายละเอียดโครงการ (ลักษณะโครงการ) :
Location
-อยู่ใจกลางเมืองของจังหวัดเชียงใหม่ บนถนนนิมมานซอย 5 ระยะเดินถึง ถ.นิมมานเพียง 5 นาที 
- ใกล้แหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง 
- ครบครันด้วยระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการ 
- เดินทางสะดวก ถนนเข้าออกได้หลายสาย 
- ใกล้ห้างสรรพสินค้า สนามบิน สถานศึกษา และโรงพยาบาล
Master Plan
-Palm Springs Nimman เป็นอาคารคอนโดมิเนียม จำนวน 6 อาคาร มีการจัดวางผังที่จัดให้แต่ละอาคารไม่บังวิวและไม่มอง 
กันเอง
- ทางเข้าออกสะดวกด้วยถนนสายหลักทั้ง 3 เส้น คือ 1.นิมมานซอย 5 2.ศิริมังคลาจารย์ 3.ถนนห้วยแก้ว
- การวางทิศทางคำนึงถึงหัวนอนของผู้อาศัยด้วยการจัดวางห้อง ทำให้ไม่มีทางทิศตะวันตกแม้แต่ห้องเดียว
- การวางผังอาคาร ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้เป็นพื้นที่สีเขียว เพื่อให้ผู้พักอาศัยทั้ง 6 อาคารได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
Product
-เป็นอาคารคอนโดมิเนียม 8 ชั้น 6 อาคาร
- แต่ละอาคารแยก 1 อาคารต่อนิติบุคคล
- แต่ละอาคารมีพื้นที่ไม่เกิน 4,000 ตร.ม.
- มีพื้นที่ส่วนกลาง คือ ที่จอดรถ Lobby Fitness สระว่ายน้ำ สวน
- Type ห้องแบ่งตามขนาดห้องพัก พื้นที่ตั้งแต่ 27.70 – 40 ตร.ม.
- ใช้เหล็กต้านแผ่นดินไหวทั้งอาคาร
“ชีวิตใกล้ชิตความสุข ทุกเวลา @ Palm Springs”

วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556

สูตร minecraft สูตรมายคราฟ และคำสั่งในมายคราฟที่ควรรู้ !

สูตร minecraft สูตรมายคราฟ และคำสั่งในมายคราฟที่ควรรู้ !

สูตร minecraft สูตรมายคราฟ เบื้องต้น สูตร minecraft สูตรมายคราฟ
สำหรับสูตร สูตร minecraft เหล้านี้ แอดมินได้รวบรวม จากแหล่งข้อมูลต่างๆ เพื่อให้ผู้เล่น เกมส์มายคราฟ ได้ใช้สูตร minecraftเพื่อใช้เล่นเกมส์มายคราฟเพื่อให้ความสนุกสนาน หวังว่าผู้เล่นเกม สูตร minecraft ทุกท่านคงชื่นชอบสูตร ที่แอดมินได้รวบรวมมานี้
/al set = เซ็ตพื้นที่จะโพรเทค เฉพาะ คนที่มี OP หรือเป็น STAFF / ADMINS
/al create [name] = เมื่อเซ็ตแล้ว พิมอันนี้เพื่อ พิมชื่อ Zone  เฉพาะ คนที่มี OP หรือเป็น STAFF / ADMINS
/al expandmax [name] = เพื่อให้สามารถทำสร้างของตั้งแต่ข้างล่างสุดถึงบนสุด  ทุกคนที่มีชื่ออยู่ในโซน
/al health [name] = เมื่อมีคนเข้ามาโซนเรา จะเพิ่มเลิอดให้ เต็ม ! ทุกคน
/al spawnmob [name] = เพื่อให้เสกมอนเตอร์ต่างๆได้ในพื้นที่ โพรเทคโซน  เฉพาะ คนที่มี OP หรือเป็น STAFF / ADMINS
/al add [namezone] [nameplayer] = ชวนคนอื่นให้เข้า Zone  เฉพาะ คนที่มี OP หรือเป็น STAFF / ADMINS / ผู้เล่นที่เป็นเจ้าของโซน
/al remove [namezone] [nameplayer] = ไล่ออกจาก Zone นั้นๆ  เฉพาะ คนที่มี OP หรือเป็น STAFF / ADMINS / ผู้เล่นที่เป็นเจ้าของ โซน


/npc create [name] = สร้าง NPC ต่างๆนาๆ หรือจะสร้างเป็นชื่อ ID แท้ เช่น Joe ก็จะเป็นรูป ของตัวละครนั้นๆ [น่าจะ] แปลไทย : gilldragon99

/spawnmob [namemonster] [amount] = เรียกมอนเตอร์ ต่างๆออกมา
เช่น /spawnmob pig 10 เป็นต้น
/kick [name] = ไล่คนอื่นออกจากเซิฟเวอร์
/ban [name] = แบนคนอื่นให้ชื่อนั้นๆไม่สามารถเข้าได้
/setspawn = เซ็ตจุดเกิดทุกคน
/op [name] = ให้ OP คนอื่น
/deop [name] = ลบ OP คนนั้นๆ
/nick [namechange] = เปลี่ยนชื่อของตัวเอง
/nuke = ปล่อยสายฟ้า / บางเซิฟปล่อย TNT ออกมาถล่มทั้งเซิฟ
/kill [name] = ฆ่าคนนั้นๆ
/setwarp [name] = เซ็ตจุด WARP
/delwarp [name] = ลบ วาป
รู้แค่นี้
เรียบเรียงโดย gilldragon99
แปลไทยโดย gilldragon99
ศิกษาจาก เซิฟเวอร์
Minecraft-WE
ขอขอบคุณ WIKI ที่เปิดแนวทางศิกษาทุกอย่าง


เสริมเอง ไปเอามาแล้วเอามาไม่หมด !
/tp [ชื่อตัวเอง][ชื่อคนที่จะวาปไปหา]  คำสั่งวาปไปหาเพื่อน
/time set [time] เช่นถ้าจะให้ตอนเช้า /time set 0 ถ้าจะให้เป็นกลางคืนต้องมีเครื่องหมายลบ ด้วย

วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ไข้ออกผื่นในเด็ก


ไข้ออกผื่นในเด็ก

ไข้ออกผื่นหรือส่าไข้ เป็นชื่อเรียกที่คุณแม่อาจได้ยินได้ฟังมาบ้าง ที่จริงแล้ว คือกลุ่มอาการของโรคอย่างหนึ่ง เปรียบได้กับโรคหวัด ที่มีตั้งแต่หวัดลงคอ หวัดขึ้นหู หวัดไปตา หวัดลงหลอดลมหรือลงกระเพาะ ก็เป็นอาการของโรคเช่นเดียวกัน
เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่รู้จัก เข้าใจกับไข้ออกผื่นที่พบได้ในเด็กเล็กอายุตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 3 ปี เรามาฟังข้อมูลที่ถูกต้องต่อไปนี้จาก พญ.ขวัญเมือง ณ ตะกั่วทุ่ง ค่ะ

ความจริงเรื่องไข้ออกผื่น
เด็กเล็กที่เป็นไข้ออกผื่น สาเหตุหลักเกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งในเด็กที่ภูมิต้านทานยังไม่แข็งแรงพอ (จึงมีโอกาสได้รับเชื้อได้ง่าย) อีกทั้งการติดต่อเกิดจากการสัมผัสทางน้ำลายและละอองจากลมหายใจ เช่น ของเล่น ของใช้ ที่ลูกหยิบ จับ สัมผัสเข้าปาก
โดยเฉพาะอาการที่เกิด คือมีไข้นำมาก่อนประมาณ 3-4 วัน แล้วจึงมีผื่นขึ้น จึงเป็นที่มาของคำว่า ไข้ออกผื่น ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสบางส่วนก็เกิดจากแบคทีเรียที่กระจายอยู่ตามอากาศ โดยเฉพาะกลุ่ม herpes เชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคหัดกุหลาบ ไวรัสบางชนิดก็ทำให้เกิดโรคมือเท้าปาก (hand foot mouth disease) เป็นต้น
อาการที่เรียกว่าไข้ออกผื่น
ขึ้นต้นว่า ไข้ เหมือนไข้หวัด แต่อาการไข้ออกผื่นต่างจากไข้หวัดสันนิษฐานคร่าวๆ จากอาการต่อไปนี้
• ลูกอาจกินน้อยลง งอแง แต่มักไม่มีอาการของหวัดเป็นอยู่ประมาณ 3-5 วัน
• เมื่อไข้ลดลงจะมีผื่นปรากฏให้เห็น และอาจมีอาการถ่ายเหลวร่วมด้วย
• ผื่นเป็นจุดเล็กๆ สีชมพูออกแดงเหมือนเม็ดทรายกระจายอยู่ทั่วตัว (บางคนจึงเรียกว่า หัดกุหลาบ)
• ไม่มีอาการอื่นร่วมเหมือนไข้หวัด เช่น จาม น้ำมูลไหล ไอ คัดจมูก หายใจไม่ออก
• หากใช้มือคลำที่ใบหู มักพบว่า มีต่อมน้ำเหลืองหลังใบหูโต
การป้องกันและดูแลที่ถูกวิธี
กลุ่มอาการไข้ออกผื่นบางชนิด เช่น โรคหัด หัดเยอรมัน จะมีวัคซีนป้องกัน คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกน้อยไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันได้ แต่บางชนิดยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ฉะนั้น จึงควรดูแลและป้องกันอย่างเหมาะสม ด้วยวิธีต่อไปนี้
• เมื่อลูกมีไข้ ควรเช็ดตัวบ่อยๆ และให้ยาลดไข้ตามอาการทุก 4-6 ชั่วโมง
• ให้ลูกดื่มน้ำมากๆ หรืออาหารอ่อน เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ
• หลีกเลี่ยงการพาลูกไปในสถานที่แออัด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก
• ให้ลูกกินอาหารครบ 5 หมู่ ที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ผักและผลไม้ เพื่อสุขภาพและสร้างภูมิด้านทานให้ลูก
สิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลยในเด็กเล็กๆ คือการดูแลเรื่องไข้ อย่าให้ลูกขาดน้ำ เพราะถ้าลูกขาดน้ำ ขาดพลังงาน อาการจะหายช้า และเมื่อเพลียมากอาจเกิดอาการชักได้ อาการไข้ออกผื่น อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่กังวลใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่อาการรุนแรง โรคนี้สามารถหายไปได้เอง เพราะร่างกายของลูกจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันเชื้อโรคได้ในระดับหนึ่ง จะสังเกตได้ว่า เมื่อไข้ลดลง จะมีผื่นขึ้นอยู่ประมาณ 2-3 วัน จากนั้นอาการจะหายไปได้เองภายในระยะเวลา 5-7 วัน (แสดงให้รู้ว่า ใกล้หาย) ขอเน้นว่า การดูแลรักษาประคับประคองเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ไข้ออกผื่นมักจะเริ่มระบาด ในช่วงปลายฤดูฝนต้นฤดูหนาว เพราะอากาศเริ่มแห้ง เชื้อไวรัสจึงสามารถกระจายอยู่ในอากาศได้ง่าย แต่ 3-4 ปีที่ผ่านมา พบว่าเชื้อโรคสามารถกระจายได้ทั้งปี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Mother & Care ฉบับเดือนพฤษภาคม 2552

ฝากครรภ์…ทำกันยังไง


ฝากครรภ์…ทำกันยังไง



ประจำเดือนขาดหาย…
2 ขีดขึ้นบนแท่งทดสอบ…
ฉันท้องแล้ววววววววว…

นอกจากการบอกข่าวดีนี้ให้ว่าที่คุณพ่อ และญาติสนิทมิตรสหายได้รับรู้และร่วมยินดี มีเรื่องอะไรที่ฉันต้องรีบทำเพื่อเตรียมตัวเป็นแม่

เรื่องที่ต้องทำเป็นอันดับแรกนั้นก็คือ…ไปฝากครรภ์ยังไงล่ะคะ
ไม่ต้องรอให้ครบ 2 หรือ 3 เดือน ไม่ต้องรอทดสอบด้วยตัวเองหลายๆ ครั้ง เพื่อให้มั่นใจก่อน สงสัยว่าตั้งครรภ์เมื่อไหร่ก็จูงมือว่าที่คุณพ่อไปพบสูตินรีแพทย์ได้เลย เพราะการพบแพทย์เพื่อฝากครรภ์ตั้งแต่อายุครรภ์ยังน้อย จะช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับทั้งตัวคุณแม่และลูกน้อยได้มากกว่าการไปฝากครรภ์เมื่ออายุครรภ์มากแล้ว เรียกว่ามีอะไรน่าสงสัยจะได้ป้องกันแก้ไขได้ทันท่วงทียังไงล่ะ
ฝากครรภ์…ทำกันยังไง?
ก่อนอื่นคุณหมอจะทำการตรวจปัสสาวะทดสอบให้แน่ใจว่าคุณตั้งครรภ์แล้วจริงๆ และจะถามคำถามเกี่ยวกับสุขภาพโดยทั่วไป เช่น ประจำเดือนมาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ สุขภาพโดยรวมแข็งแรงดีมั้ย? มีโรคประจำตัวหรือเปล่า? ตั้งครรภ์นี้เป็นครรภ์ที่เท่าไหร่? เคยแท้งบุตรหรือไม่? ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ คุณหมอจะนำมาประกอบการดูแลคุณแม่ ตลอดช่วงการตั้งครรภ์ค่ะ
หากคุณหมอถามคำถามที่ทำให้คุณแปลกใจ ว่าเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ตรงไหน อย่างถามว่า คุณใส่รองเท้าเบอร์อะไร? ก็อย่าสงสัยไปเลยค่ะ เพราะคุณหมอจะสามารถกะขนาดของกระดูกเชิงกรานของคุณ เพื่อวางแผนการคลอดได้จากขนาดของรองเท้านี่แหละ
แล้วคุณหมอก็จะชั่งน้ำหนัก และวัดส่วนสูง เพื่อแนะนำเรื่องโภชนาการ หากคุณแม่มีน้ำหนักมากอยู่แล้ว คุณหมอจะแนะนำให้ควบคุมน้ำหนัก โดยรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง แต่มีไขมันและคาร์โบไฮเดรตต่ำ จากนั้นก็จะทำการวัดความดันโลหิต, ตรวจเลือดหาเชื้อซิฟิลิส, เอชไอวี, ไวรัสตับอักเสบ, ดูความสมบูรณ์ของเลือด, หมู่เลือด, ตรวจการทำงานของหัวใจ, ปอด, ตรวจปัสสาวะ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการตรวจในครั้งต่อไป
นอกจากนั้นอาจจะมีการตรวจลักษณะภายนอกของท้องเพื่อเช็คดูขนาดของมดลูก บางรายอาจต้องตรวจเต้านม และตรวจภายในด้วย
กรณีที่แม่มีปัจจัยเสี่ยงสูง เช่น คุณแม่อายุเกิน 35 ปี หรือมีโรคประจำตัวบางอย่างที่ต้องรับประทานยาเป็นประจำ ก็จะมีการตรวจพิเศษเพิ่มเติม
จุดมุ่งหมายในการฝากครรภ์นั้นเพื่อให้แน่ใจว่าคุณแม่และทารกในครรภ์จะมีสุขภาพดี แข็งแรงตลอดการตั้งครรภ์ การฝากครรภ์จึงมีความสำคัญมากสำหรับคุณแม่ เพราะหากมีปัญหาหรือสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นในระหว่างนั้น คุณแม่จะได้รีบปรึกษาคุณหมอและเข้ารับการรักษาได้ทันท่วงที
ดังนั้น อย่ามัวรีรอ ไปพบแพทย์เพื่อตรวจและฝากครรภ์ทันทีที่สงสัยว่าตั้งครรภ์ หรืออย่างช้าไม่ควรเกิน 3 เดือนหลังจากประจำเดือนขาดหายไปนะคะ
Did You Know?
การใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์นั้นควรทดสอบกับปัสสาวะตอนเช้า เพราะจะมีระดับฮอร์โมนที่เข้มข้น และควรใช้ช่วงกลางของปัสสาวะ ชุดทดสอบส่วนมากจะมีความแม่นยำมากเมื่อคุณตั้งครรภ์ 2 สัปดาห์ขึ้นไป
วิธีการใช้มี ดังนี้
1. จุ่มแถบทดสอบลงในถาดปัสสาวะ ประมาณ 30 นาที
2. นำแถบวางพาดบนถาดใส่ปัสสาวะ หรือวางบนพื้นราบๆ รอประมาณ 3 นาที
3. ถ้าปรากฏแถบสีชมพูขึ้นเพียงขีดเดียวแสดงว่าไม่ตั้งครรภ์ แต่ถ้าแถบสีชมพูขึ้น 2 ขีด ล่ะก็ เตรียมตัวไปฝากครรภ์ได้เลยค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
แม่และเด็ก ฉบับเดือนมิถุนายน 2552

3 เดือนแรกของแม่มือใหม่


3 เดือนแรกของแม่มือใหม่

นับจากนี้ไป การเริ่มต้นเลี้ยงดูลูกน้อยของคุณแม่ กำลังจะเริ่มขึ้น เพียงแต่ว่ายังมีหลายสิ่งหลายอย่างสำหรับคนเป็นแม่ต้องทำความเข้าใจ เตรียมความพร้อมปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในช่วง 3 เดือนแรกค่ะ
คุณแม่เดือนแรก
เมื่อเริ่มต้นเป็นแม่ ความรู้สึกกังวลในหลายสิ่งหลายอย่างต่อการเลี้ยงลูก กลัวว่าเลี้ยงลูกได้ไม่ดี เลี้ยงไม่เป็น ซึ่งความวิตกกังวลบางส่วนอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อความรู้สึกทางจิตใจและอารมณ์ของแม่ระหว่างการพักฟื้นหลังคลอด และบางส่วนเกิดจากความไม่มั่นใจในการเป็นแม่มือใหม่
คุณแม่ที่ไม่สามารถปรับสภาพตัวเองเข้ากับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ อาจมีอาการกังวลใจ จิตใจไม่ปกติ หดหู่ ท้อแท้ จนอาจจะเกิดภาวะซึมเศร้าหลังคลอด แต่ใช่ว่า คุณแม่ทุกคนจะมีอาการแบบนี้เหมือนกันหมด เพราะขึ้นอยู่กับพื้นฐานทางสภาพร่างกายและจิตใจเป็นหลัก หากแม่สุขภาพแข็งแรง อารมณ์มั่นคงพอ รวมถึงสภาพแวดล้อม คนรอบข้าง เอื้อต่อการเลี้ยงดูลูก ก็สามารถตั้งรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
เตรียมพร้อมเลี้ยงลูก
เมื่อรู้สึกเครียดหรือเหน็ดเหนื่อยกับเรื่องลูก ทางออกที่ดีที่สุดให้กับคุณและลูกน้อย คือ การตั้งสติ ค่อยๆ ปล่อยวางอารมณ์ตัวเอง ก็จะช่วยให้ทุกอย่างผ่านพ้นด้วยดี นอกจากความรู้คู่มือเลี้ยงลูกในตำรา การพูดคุย หาความรู้จากกูรูผู้มีประสบการณ์มาก่อน เป็นแนวทางอย่างกว้างๆ ให้คุณเตรียมพร้อมกับการเลี้ยงลูกในแบบฉบับของคุณ พูดคุยกับพ่อของลูก เพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องงานบ้าน คุณแม่จะได้ไม่ต้องกังวลหลายๆ เรื่องในคราวเดียวกัน
ครั้งแรกกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ คุณอาจกังวลว่า น้ำนมไม่มากพอเลี้ยงลูก แต่หากคุณดูแลเรื่องอาหารการกินที่มีประโยชน์ไม่เครียดกับการให้นมมากเกินไป ทำใจให้สบายๆ หาความรู้ในเรื่องนมแม่ไว้ก่อน รับรองว่าคุณแม่จะสามารถผ่านเรื่องนี้ได้อย่างดี
คุณลูกเดือนแรก
ถ้าลูกไม่ได้มีปัญหาด้านการดูด ก็ยังไม่ต้องกังวลกับการดูดนมของลูกในช่วงนี้ เพราะดูเหมือนลูกจะดูดนมได้น้อย แต่ก็กินบ่อย ทุก 2-3 ชั่วโมงโดยประมาณ นั่นก็เพราะกระเพาะลูกยังเล็กนิดเดียว และการให้ลูกดูดนมแม่บ่อยๆ เป็นการช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำนมเพื่อลูกน้อยอย่างเพียงพอ
เด็กบางคนนอนแล้วตื่นบ่อย บางคนนอนได้นาน 3-4 ชั่วโมงก็เป็นลักษณะนิสัยของเด็กแต่ละคน แต่ถ้าลูกนอนตื่นบ่อยผิดสังเกตก็ต้องคอยดูว่า เป็นเพราะกินนมไม่พอ ลูกเจ็บป่วย หรือชื้นแฉะหรือไม่ เด็กแรกเกิดมักแหวะนมเป็นเรื่องปกติ เพราะหูรูดกระเพาะไม่แข็งแรงแก้โดยการอุ้มพาดหลังให้ลูกเรอทุกครั้งหลังอิ่มนม แม้ลูกยังมองเห็นไม่ชัด เห็นเพียงระยะใกล้ๆ แต่ก็สนใจที่จ้องมองวัตถุสิ่งของ โดยเฉพาะใบหน้าแม่ ทักษะการได้ยินพัฒนาสมบูรณ์มาตั้งแต่ในท้อง ลูกจะเริ่มจดจำว่าเสียงไหนเป็นเสียงแม่ การเคลื่อนไหว แขน ขา ยังเกิดจากปฏิกิริยาสะท้อนกลับอยู่
ช่วงเดือนแรก เป็นช่วงที่ลูกปรับตัว การกิน การนอน การขับถ่าย อาจไม่เหมือนกันสักวัน แต่พอลูกอายุมากขึ้น ทุกอย่างจะเป็นระบบมากขึ้น สิ่งที่ต้องเข้าใจสำหรับแม่มือใหม่คือ เด็กแต่ละคนมีอุปนิสัยและความต้องการที่ต่างกันไม่จำเป็นต้องกำหนด ว่าลูกต้องกินวันละกี่ครั้ง นอนวันละกี่ชั่วโมง หรือถ่ายวันละกี่ครั้ง เพราะตราบใดที่ลูกยังร่าเริง น้ำหนักและพัฒนาการต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ปกติ ก็ไม่ต้องกังวลกับเรื่องต่างๆ ที่กล่าวมา เพราะมีแต่จะส่งผลเสียทำให้คุณเครียดมากกว่า
คุณแม่เดือนที่ 2
ทุกเรื่องที่คุณเคยกังวล กลัวๆ เกร็งๆ กับการเลี้ยงลูกมาก่อน เดือนนี้คุณแม่จะคล่องแคล่วมากขึ้น เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาคุณได้ใกล้ชิดดูแลลูกน้อยเรียนรู้ซึ่งกันและกันระดับหนึ่งแล้ว แล้วคุณจะพบว่า ลูกตัวเล็กๆ มีพัฒนาการก้าวหน้าขึ้นเป็นลำดับ
เตรียมพร้อมเลี้ยงลูก
สมัยนี้มีข้อมูลการเลี้ยงลูกให้คุณแม่จากสื่อต่างๆ มากมาย บางครั้งคุณแม่อาจจะรับรู้มามากจากหลายทิศทาง จนเกิดความสับสน ซึ่งความจริงแล้วข้อมูลหรือวิธีการต่างๆ เป็นการบอกแนวทางอย่างกว้างๆ ไม่ใช่เด็กทุกคนต้องเป็นเหมือนในตำราเป๊ะ ทุกอย่างยืดหยุ่นได้ เพราะเด็กแต่ละคนมีธรรมชาติเป็นของตัวเองและคนที่จะรู้ดีที่สุดว่าลูกเหมาะกับการเลี้ยงดูแบบไหนก็คือตัวคุณแม่ที่อยู่ใกล้ชิดลูกเกือบตลอดเวลานั่นเอง
คุณลูกเดือนที่ 2
จากที่นอนนาน 20 ชั่วโมงต่อวัน ตอนนี้ลูกวัย 2 เดือน จะมีชั่วโมงการนอนที่ลดลงเป็น 16-18 ชั่วโมงต่อวัน เพราะเริ่มปรับตัว และเรียนรู้ที่จะหลับตื่นเป็นเวลานั่นเอง ดูเผินๆ เหมือนลูกเอาแต่นอน ถึงตื่นก็จะมองนิ่งๆ ถ้าสังเกตดีๆ คุณแม่จะเห็นว่า ลูกเริ่มจดจำใบหน้าที่คุ้นเคย ส่งรอยยิ้มให้คุณได้มากขึ้น เพราะลูกเชื่อมโยงการยิ้มเข้ากับความพอใจแสดงออกมาให้คุณได้เห็นกล้ามเนื้อคอเริ่มแข็งแรง ยกศีรษะจากที่นอนเมื่ออยู่ในท่านอนคว่ำได้ชั่วขณะประมาณ 45 องศา สามารถขยับเขยื้อน เคลื่อนไหวได้มากกว่าเดือนที่ผ่านมา
หากลูกหงุดหงิด ไม่พอใจ ต้องการอะไร การส่งเสียงร้อง จะเป็นวิธีเดียวที่ลูกของคุณร้องขอความช่วยเหลือ

คุณแม่เดือนที่ 3
มาถึงเดือนนี้ก็เริ่มเป็นคุณแม่มือโปร ในการจัดการลูกน้อยตัวเล็กแล้ว เพราะจ้องตา อ่านใจลูกกันมาพอสมควร แต่คุณแม่ที่เป็น Working mom อาจจะรู้สึกใจหาย เพราะในอีกไม่กี่วันก็ต้องกลับไปทำงาน ไม่ได้อยู่กับลูกตลอด 24 ชั่วโมงเหมือนที่ผ่านมา ฉะนั้นวิธีการที่ดีที่สุด คือการเตรียมพร้อม
เตรียมพร้อมเลี้ยงลูก
ให้คนที่จะมาเลี้ยงลูกให้คุณในช่วงที่ไปทำงาน มาเลี้ยงคู่กับคุณไปด้วย เพราะเขาคนนั้นจะได้รู้จักรู้ใจลูกคุณ ถ้าคนนั้นเป็นญาติสนิทกัน คงไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นพี่เลี้ยงที่จ้างกันมา ก็ต้องเทรนด์กันเป็นพิเศษ บางครอบครัวอาจะเลือกใช้บริการเดย์แคร์ หรือเนิร์สเซอรี่ ก็ต้องดูในเรื่องสถานที่ พี่เลี้ยง ความสะอาด มาตรฐานของสถานที่นั้นให้ละเอียด เตรียมนมแม่ให้พร้อม ถึงแม้จะไม่ได้ให้ลูกดูดจากเต้าในช่วงกลางวัน คุณก็สามารถปั๊มเก็บให้ลูกได้ ลูกจะได้แข็งแรงด้วยนมแม่อย่างต่อเนื่อง
คุณลูกเดือนที่ 3
เวลากิน เวลานอนของลูกเป็นระบบมากขึ้นค่ะ ที่สำคัญลูกมีความสุขกับของเล่นเขย่ามีเสียง ของที่เคลื่อนไหวได้มากขึ้น
ลูกเริ่มใช้นิ้วมือหยิบๆ จับ สิ่งของ ยกนิ้วมือขึ้นมาดูดๆ อมๆ เข้าปาก คุณอาจสงสัยได้ว่า เป็นเพราะหิวหรือเปล่า แท้จริงแล้ว เป็นเพราะความเพลิดเพลิน สนุกกับการดูดนั่นเอง กล้ามเนื้อคอมีความแข็งแรงมากขึ้น ทำให้ลูกชันคอได้ตรงและนานขึ้น การมองเห็นดีขึ้น คุณแม่อาจจะกระตุ้นสายตาลูกโดยการหาภาพมาให้ลูกได้มอง

ช่วงระยะเวลา 3 เดือนแรกหลังคลอด คุณแม่อาจจะลุ้นอยากให้ลูกคอแข็งเร็วๆ จะได้อุ้มง่ายขึ้น อยากให้ลูกนอนเป็นเวลาบ้าง คุณแม่จะได้พักผ่อนเต็มตาซะที แต่เมื่อครบ 3 เดือนแล้วคุณมองย้อนกลับไป จะพบว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาของความสุข (เคล้าน้ำตาทั้งแม่และลูก) คุณได้เรียนรู้ ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ คุณอาจจะทึ่งความสามารถของคุณเอง ทึ่งในความเปลี่ยนแปลงของลูกตัวเล็กๆ ความรัก การดูแลเอาใจใส่ที่คุณดูแลลูกน้อยนั้น เชื่อว่าแค่ยิ้มของลูกก็เป็นของขวัญที่มีค่าที่สุด ที่จะทำให้รู้สึกว่า เป็นแม่นี่ดีจริงๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจากMother & Care 
ฉบับเดือนมกราคม 2551

วิธีดูแลอาการที่เกิดขณะตั้งครรภ์



              ระดับฮอร์โมนที่สูงขึ้นขณะตั้งครรภ์จะมีผลให้อวัยวะต่างๆในร่างกายของคุณแม่เปลี่ยนไปจากเดิม เช่น นอกจากผลของฮอร์โมนแล้ว รูปร่างที่ขยายใหญ่ขึ้นก็จะทัให้คุณแม่มีอาการของคนตั้งครรภ์ปรากฎออกมา  จัดเป็นอาการปกติของหญิงตั้งครรภ์ที่มีวิธีแก้ไขและป้องกันบรรเทาอาการไม่ใสร้างความยุ่งยากลํบากใจให้คุณแม่ จะได้มีความสุขขณะตั้งครรภ์ไปจนกระทั่งคลอด

1.ปวดหลัง
เป็นผลมาจากการแอ่นของกระดูกสันหลังจากน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้ขณะตั้งครรภ์ถ่วงอยู่ทางด้านหน้าทำให้เกิดความเครียสต่อกล้ามเนื้อสันหลังมากขึ้นประกอบกับมีการใช้ท่าทางที่ไม่ถูกต้องขณะทำงาน เช่น ก้มหยิบของโดยไม่ย่อเข่านอนที่ไม่ถูกต้อง เพิ่มความเครียสให้กับกระดูกสันหลังจากและกล้ามเนื้อ

2. ปวดแขน ขา
ฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลงทำให้เส้นอ็นและข้อต่อหย่อนลงมีอาการปวดบริเวณรอยต่อกระดูกเชิงกรานตรงหัวเหน่าปวดราวที่ขาเพราะลูกไปกดทับตรงเส้นประสาท เวลาปวดให้ใช้ยานวดคลายกล้ามเนื้อชนิดร้อนหรือเย็น  การประคบด้วยความเย็น  การประคบด้วยสะหมุนไพร หลีกเลี่ยงการนวดบริเวณช่วงท้อง หากคุณแม่รู้สึกเหมือนเหน็บกินบริเวณข้อมือและรู้สึชาที่นิ้ว ปวดเมื่อยตามข้อมือ  เพราะเนื้อเยื่อบริเวณข้อมือมีการขยายตัวและจะไปกดทับเส้นประสาท  อาการเหล่านี้จะหายไปหลังคลอด  สามารถหาผ้ายืดรัดข้อมือมาสวม  การนวดด้วยยาคล้ายกล้ามเนื้อ ดื่มน้ำขิง น้ำชา ใบแปะก๊วยวันละแก้ว  ช่วยบรรเทาปวดจากกล้ามเนื้อและข้ออักเสบได้

3.แพ้ท้อง
คือ คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศรีษะ  รู้สึกเลี่ยนๆ ขมๆ  พะอืดพะอม ที่แพ้รุนแรงมากจะทานอะไรไม่ได้เลย อาเจียนออกมาหมด จนดุโทรม ตาลึกโบ๋  ปากแห้ง  ขาดน้ำ ขาดอาหาร  ปัสสาวะน้อยและสีเหลืองเข้ม บางคนแพ้ท้องตอนกลางคืน  บางคนก็แพ้เรื่อยๆได้ทั้งวัน  ตอนเย็นอาจรู้สึกมีไข้รุมๆรวมด้วย เกิดจากสาตุ 2 ประการ คือ
-ปริมาณของฮอร์โมน Human Gonadotrophin(HCG) ที่สร้างมาจากรกตั้แต่รกฝั่งตัวเข้าไปในเยื่อบุโพรงมดลูกเมื่อายุเข้า 5 สัปดาห์จะเริ่มแพ้ท้อง ยิ่งมีเนื้อรกมากจะยิ่งสร้างฮอร์โมนEstrogen และ  Progesterone อาการแพ้ท้องก็จะยิ่งมากขึ้น
-เพราะกลไกร่างกายของคุณแม่ปฏิเสธอาหารด้วยความรู้สึกว่ากว่าไปทำอันตรายต่อทารกในครรภ์ 
ภายหลังจาก 3 เดือน การสร้างอวัยวะต่างๆจะเสร็จสื้นเกือบหมด การแพ้ท้องก็มักจะหายตามไปด้วย  การแก้ไขอาการ โดยทานอาหารย่อยง่าย น้ำผลไม้สด ขนมปังกรอบ ดื่มน้ำขิง น้ำต้มดอกบัว น้ำนม น้ำเต้าหู้ น้ำผลไม้น้ำแข็ง โยเกิร์ต นมปั่น หรือไอศกรีม เวลาอาเจียนให้คนลูบหลังให้ และจิบน้ำดังกล่าวอุ่นๆทีละนิด และพยายามอย่าให้ท้องว่าง โดยกินอาหารที่ละน้อยๆ บ่อยครั้ง หรืออมลูกอมเปรี้ยวหวาน   กลิ่นอาหาร กลิ่นฉุนและควันบุหลี่จะทำให้เกิดอาการแพ้ท้องรุนแรงขึ้นควรเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงซึ่งย่อยยาก ของทอดและฝลไม้ดองควรทำจิตใจให้สงบหากปฏิบัติตามแล้วยังไม่หายควรปรึกษาคุณหมอไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง

การปฏิบัติตัวขณะตั้งครรภ์ แนะนำการปฏิบัติตัวขณะตั้งครรภ์

ง่วงนอนและเหนื่อนง่าย
   จากผลของฮอร์โมน Progesterone ที่สูงขึ้นขณะตั้งครรภ์ ส่งผลให้กล้าเนื้อคลายตัว ร่วมกับท้องที่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจะทำให้หายใจไม่ค่อยสะดวกหรือไม่เต็มปอด จึงทำให้รู้สึกเหนื่อยง่ายกว่าปกติ และง่วงนอนบ่อย การพักผ่อนให้มากเป็นสิ่งที่ดี ถ้าคุณแม่สามารถนอนช่วงกลางวันหรือหลังกินอาหารได้ก็จะมีอาการดีขึ้น
ตกขาวหรือกลิ่นสีผิดปกติ
   ตกขาวมาก แต่ไม่คัน เนื่องจากอิทธิพลของฮอร์โมนจาการตั้งครรภ์ การมีตกขาวเป็นกลไกการปรับตัวตามปกติสำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ และภายหลังคลอดก็จะหายไปไดเอง ตกขาวที่ปกติมักมีลักษณะเป็นมูกสีขาวๆ
 คุณแม่ที่มีตกขาวสีผิดปกติไป คือ ตกขาวอาจเป็นสีเหลืองหรือเขียว มักมีอาการร่วมด้วย เช่น คันช่องคลอด หรือปวดในช่องคลอดแบบนี้ควรรีบไปพบแพทย์ เพราะอาจจะติดเชื้อราที่เกิดในผู้หญิงที่มีภูมิต้านทานต่ำ ตกขาวจะข้นคล้ายแป้งเปียก มีกลิ่นเหม็น
ปวดถ่วงบริเวณท้องน้อยด้านข้าง
       หรือเรียกว่าปวดบริเวณปวดปีกมดลูก อาจเกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ เพราะมดลูกลูกขยายตัวอย่างรวดเร็ว คุณแม่ควรระวังตัว เช่น คุณแม่ลุกขึ้นลุกลงจากเตียงอย่างระมัดระวัง ไม่เกร็งหน้าท้องเวลาลุกขึ้นหรือเวลานั่ง หรือหดเกร็งหน้าท้องเวลาล้มตัวนอน ตลอดการตั้งครรภ์ควรตะแคงขึ้นตะแคงลงด้านข้างเวลาลุกจากเตียงนอน  โดยใช้แขนเท้ากับเตียงเพื่อช่วยพยุงลำตัว ลดการเกร็งหน้าท้อง เมื่อท้องโตขึ้นเรื่อยๆอาการเจ็บที่ปีกมดลูกนี้ก็จะค่อยๆบรรเทาลง
     ส่วนตรงกลางท้องน้อยก็อาจจะมีความรู้สึกถ่วงๆได้ แต่ต้องไม่มีอาการบีบๆเป็นอันขาด เพราะจะนำไปสู่การแท้งได้
ปวดบริเวณหัวหน่าว
          ฮอร์โปรเจสเดอโรนที่สูงจะทำให้ข้อต่อกระดูกและเอ็นต่างๆบริเวณอุ้งเชิงกรานมีการคลายตัว หลวมและยืดหยุ่นมากขึ้นเป็นระยะสุดท้ายของการตั้งและช่วงอายุครรภ์ 36 สัปดาห์ศีรษะลูกมีการกลับมาอยู่ด้านล่างเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่อุ้งเชิงกราน ซึ่งจะไปกดลงตรงกระดูกข้อต่อบริเวณหัวหน่าวได้ง่าย
      -ควรออกกำลังกาย จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณข้อต่อแข็งแรงรับน้ำหนักของศีรษะทารกที่กดลงบริเวณอุ้งเชิงกรานได้ดีขึ้น เลือกให้ตนเองอยู่ในท่าที่เหมาะสม เช่น นั่งเอนตัวไปข้างหลัง อย่าให้น้ำหนักกดบริเวณอุ้งเชิงกรานมากไป หลีกเลี่ยงการยืนนานๆ เดินนานๆ

         การเจ็บครรภ์
         อาการปวดรุนแรงจนบางครั้งคุณแม่เข้าใจผิดคิดว่า กำลังจะคลอดแล้ว แต่อาการปวดชนิดนี้จะไม่สม่ำเสมอ นอนพักพักนิ่งๆสักระยะก็จะทุเลาลง หากมีอาการปวดแบบนี้ยังไม่ต้องไปพบแพทย์ มีอาการกล้ามเนื้อเกร็งทุกๆ 5-10 นาที รู้สึกเจ็บท้องมาก มีเลือดออกที่ช่องคลอดหรือความรู้สึกว่าน้ำคร่ำไหลออกมานั่นหมายถึงการใกล้คลอด
           เจ็บท้องคลอดจริง อาการเริ่มตั้งแต่แน่นอึดอัด มีอาการกล้ามเนื้อเกร็งทุกๆ 5-10 นาที รู้สึกเจ็บท้องมาก นอนพักก็ไม่ทุเลา เมื่อเอามือคลำท้องดูจะพบว่าท้องแข็งเนื่องจากการแข็งตัวของมดลูก บางคนจะมีมูกเลือดออกมาทางช่องคลอดคล้ายๆประจำเดือนที่ออกมาใหม่ๆ บางคนมีน้ำเดินออกมาโดยไม่ปวดท้องเลย ควรเตรียมตัวมาโรงพยาบาลทันที